ดาวเคราะห์ดวงแล้วดวงเล่า ต้องตกอยู่ในกำมือของกองทัพชั่วร้ายของพวก เนโครมองเกอร์ (Necromongers) ภายใต้การนำของจอมเผด็จการ ลอร์ดมาร์แชล (คอล์ม ฟีโอเร่) กลุ่มนักรบผู้มีชัยที่เสนอทางเลือกง่ายๆ ให้กับโลกที่โดนทำลาย นั่นก็คือยอมจำนน หรือไม่งั้นก็ตาย บรรดาผู้ที่ปฏิเสธการปกครองของพวกเนโครมองเกอร์ ต่างหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้พบใครสักคน หรืออะไรสักอย่าง ที่จะมายับยั้งการขยายอำนาจของพวกเนโครมองเกอร์ แต่พวกกบฏมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และดูเหมือนว่าคนที่จะช่วยพวกเขาได้ ก็มีอยู่น้อยเต็มที
เมื่อเหตุการณ์เริ่มเลวร้าย ผู้รอดชีวิตที่ต่างเหนื่อยล้า ต่างหันไปพึ่งพิงตำนานเพื่อบรรเทาทุกข์ในใจ พวกเขาพร่ำเพ้อถึงคำทำนาย ความหวังลมๆ แล้งๆ เรื่องเล่าในตำนานเกี่ยวกับความดีที่มีชัยเหนือความชั่ว แต่ความดีใช่จะเป็นสิ่งที่ต้านความชั่วร้ายได้เสมอไป และตำนานอาจผิดพลาดได้บางครั้ง ทางเดียวที่จะหยุดความชั่วร้ายได้ อาจไม่เกี่ยวกับความดี แต่เป็นความชั่วร้ายในอีกรูปแบบหนึ่งต่างหาก
ดังนั้น บุคคลที่ดูไม่น่าเป็นฮีโร่ จึงถูกเรียกตัวมาหลังจากโดนเนรเทศ และได้รับคำขอร้องให้เข้าร่วมในการต่อสู้ เขาก็คือ ริดดิก (วิน ดีเซล) ผู้ไม่แคร์ว่าใครจะเป็นผู้ปกครองจักรวาล ตราบใดที่ไม่มีใครมายุ่งกับเขา นับแต่เดินทางออกจากดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง ในระบบสุริยะทอรัส ที่แม้แต่เทพเจ้ายังลืมเมื่อห้าปีก่อน ริดดิคซึ่งเป็นอาชญากรผู้เป็นที่ต้องการตัว ไม่เคยมองย้อนกลับไปสู่อดีต เวลาส่วนใหญ่ของเขา หมดไปกับการหลบหนีจากการจับกุม ของพวกนักล่าเงินรางวัลที่ไล่ตามเขามาตลอด สำหรับริดดิคแล้ว ไม่ว่าจักรวาลจะพินาศหรือไม่ ทุกอย่างล้วนไม่แตกต่าง นักรบฉายเดี่ยวนายนี้ สนใจแต่เพียงเอาชีวิตตัวเองให้รอดถ้าลองแหยมเดินเข้ามาขวางเส้นทางของเขา ริดดิคพร้อมจัดการกับทุกคน
แต่บางสิ่งกำลังเปลี่ยนแปลง การเผชิญหน้าที่ใกล้มาถึง ทำให้ริดดิคต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับการต่อสู้อันกล้าหาญ ที่ผู้ชนะเท่านั้นจะได้ครอบครองทุกอย่าง ตั้งแต่อารยธรรมอันหลากหลาย ที่อยู่ภายใต้การโจมตี ไปจนถึงคุกใต้ดิน ที่อยู่ใต้พื้นผิวของดาวเคราะห์ภูเขาไฟที่ร้อนดั่งนรก และในที่สุด ก็คือบนยานบาซิลิก้า ยานแม่ของพวกเนโคร และเป็นขุมแห่งอำนาจในอาณาจักรมืดของพวกเนโคร
ในสงครามครั้งสุดท้าย มีคำทำนายว่าชะตากรรมของทุกชีวิตขึ้นอยู่กับโชคชะตาของชาวฟิวเรี่ยนหนึ่งเดียว และพลังทั้งหมดทั้งมวลในจักรวาล ก็มิอาจหยุดชะตากรรมนี้ได้...